บทนำ (Overview)
เมื่อโปรแกรมมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น ตัวแปร (Variable) จะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การเขียนโปรแกรมสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ตัวแปร จะช่วยจดจำข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเตรียมพร้อมในการประมวลผล เช่น การคำนวณ การตรวจสอบข้อเท็จจริง การแสดงผลลัพธ์ให้ผู้ใช้รับทราบเป็นต้น
ขั้นตอน (Steps)
- ตัวแปร (Variable) จะทำหน้าในการเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการประมวลผล นั้นหมายความเมื่อเราตั้งชื่อตัวแปรมาหนึ่งตัว ระบบจะทำการจองหน่วยความเพื่อใช้ในการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งข้อมูลนั้นก็มีหลายประเภท เช่น ตัวเลข ตัวอักษร เป็นต้น
- ประการที่สอง การใส่ค่าเข้าไปในตัวแปร เราก็สามารถทำได้โดยใช้เครื่องหมาย เท่ากับ เช่น a = 2 เป็นต้น
root@kali:~/Python# python Python 2.7.11+ (default, Feb 22 2016, 16:38:42) [GCC 5.3.1 20160220] on linux2 Type "help", "copyright", "credits" or "license" for more information. >>>a = 1 >>>print a 1
- ตัวเลข (number) โดยปกติตัวเลขมีแยกประเภทออกเป็นหลายชนิด เช่นจำนวนเต็ม ทศนิยมหลายหลาย แต่ในที่นี้จะกล่าวเพียงแต่ตัวเลข คือค่าที่เราสามารถนำมาใช้คำนวณทางคณิตศาสตร์ ได้เช่น
root@kali:~/Python# python Python 2.7.11+ (default, Feb 22 2016, 16:38:42) [GCC 5.3.1 20160220] on linux2 Type "help", "copyright", "credits" or "license" for more information. >>> a = 1 >>>print a 1 >>> b =3 >>>c = a + b >>>print c 4
- สายอักขระ (String) ก็คือข้อความตัวอักษรทั่วไป ซึ่งอยู่ภายในเครื่องหมาย ‘…’ หรือ “…” รวมถึงอักขระพิเศษต่าง ๆ ใน “python” มีฟังก์ชันสำหรับดึงตัวอักษรแต่ละตัวออกจากสายอักขระได้เช่น
>>> test = 'Python' >>> test1 = "Python" >>> print test Python >>> print test1 Python >>> print test[0] P >>>; print test1[0] P >>> print test1[0:3] Pyt >>> print test[0:3] Pyt
- ลิสต์ (List) มีลักษณะเป็นลำดับ (Sequence) สามารถใช้เก็บข้อมูลหลากหลายชนิดภาย ทั้ง “String” หรือ “Number” สามารถดึงข้อมูลภายใน “list” ได้ อย่างเช่นเดียวกับ “String”
>>> list1 = ['IT', 'Select', 'Lab'] >>>list2 = ["Python", 'version', 2] >>> list1[0] 'IT' >>>list2[0] 'Python' >>> list1[0:2] ['IT', 'Select'] >>> list2[0:2] ['Python', 'version'] >>> list1 + list2 ['IT', 'Select', 'Lab', 'Python', 'version', 2]
- ดิกชันนารี (Dictionary) มีโครงสร้างแบบตาราง “Hash” หรือ “Property” และ “Value” คล้าย ๆ กับ “Array” แต่เราสามารถค่า “Index” ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นตำแหน่งตัวเลขอย่างเดียว อย่าง “Array” ดังนี้
>>> dic = {'01':'test1', '02':'test2', '03':'test3'} >>> dic {'02': 'test2', '03': 'test3', '01': 'test1'} >>> dic[2] Traceback (most recent call last): File "<stdin>", line 1, in <module> KeyError: 2 >>> dic['02'] 'test2' >>> dic.keys() ['02', '03', '01'] >>> dic.values() ['test2', 'test3', 'test1']