5 สิ่ง ที่ชอบทำ หลังจากติดตั้ง Kali Linux เพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น

บทความโดย
Pongsathon Sirithanyakul
Cybersecurity Consultant


1. Check Default Repository

Kali Linux repository คือ แหล่งรวมที่เก็บ Utilities, Tools หรือ Software ต่างๆ ที่ไว้ใช้ติดตั้งบน Kali Linux เราจึงต้องเข้ามาเช็คว่า Repository มาจากเว็บที่ถูกต้องหรือไม่ ดังนี้

  • หลังจากนั้น ใช้คำสั่ง
vim /etc/apt/sources.list
  • โดยปกติถ้าพึ่งติดตั้งมาใหม่ จะมีค่าเหมือนกันอยู่แล้ว แต่ถ้าหากไม่เหมือนให้เปลี่ยนเป็นค่าตามในเว็บดังกล่าว

2. Update Kali Linux

 sudo apt-get update && sudo apt-get full-upgrade 

Note :
sudo apt-get update ไม่ได้เป็นการติดตั้งหรืออัพเกรด Version Software อะไรเพิ่ม แต่เป็นเพียงแค่การ Update Listของ Packet ที่จะใช้ในการ Upgrade (sudo apt-get full-upgrade)


3. Disable Screen lock

โดยส่วนใหญ่เรามักจะชอบรัน Kali Linux บน VM จึงอาจจะไม่จำเป็นที่ต้องตั้งค่าล็อคหน้าจอ เพื่อความสะดวกในการทำงาน

  • โดยเข้าไปตั้ง ดังนี้ Computer > Settings.. > Security
  • ปรับค่า Automatically lock the session เป็น Never
  • และตัว Lock screen when system is going to sleep ติ๊กถูกออก

4. Create a Low-Level User

สำหรับใครที่เป็นห่วงเรื่อง Security หากนำ User root มาใช้จะไม่ปลอดภัย
แนะนำให้สร้าง User ใหม่ขึ้นมา เพื่อใช้แทน

ตามคำสั่งนี้
สร้าง User ใหม่

 sudo adduser [name] 

เพิ่มUserเข้าไปในกลุ่มsudo(สิทธิ์สูง)

sudo usermod -sG sudo [name]

5. Install Programs

หากต้องการใช้ program อะไรก็ทำการ install มาลงได้เลย โดยเบื้องต้น จะใช้คำสั่ง

sudo apt-get install [package name]

หรือหากต้องการถอนการติดตั้งโปรแกรม ให้ใช้คำสั่ง

 sudo apt-get remove [package name]

ยกตัวอย่างตัวที่ใช้บ่อยๆ เช่น git เพราะสามารถใช้ในการ git clone มาจาก githubที่เราต้องการนำมาใช้

หรือ Tor ที่ใช้เหมือนเป็นบราว์เซอร์ทั่วไป แต่จะช่วยปกปิดตัวตน และแหล่งการเชื่อมต่อ เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้มากขึ้น

 sudo apt install tor torbrowser-launcher